วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ก่อนตาย ... อย่าลืมยกเลิกบัตรเครดิต


นางแจ่มชัด เสียชีวิตไปเมื่อเดือนมกราคมปีนี้เอง

ธนาคารสี่ตี้แบงค์ได้ส่งใบเรียกเงินมาเก็บค่าธรรมเนียมประจำปีของบัตรเครดิต

ซึ่งมาถึงเธอในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม พร้อมทั้งเรียกเก็บค่าปรับที่เธอชำระล่าช้า

พร้อมดอกเบี้ยของยอดที่เรียกเก็บ ซึ่งในความเป็นจริงเธอไม่ได้ใช้บัตรนั้นมาตั้งแต่วันที่ตาย

แต่บัดนี้ยอดทั้งหมดที่เรียกเก็บกลายเป็นจำนวนสองพันกว่าบาทเข้าไปแล้ว

ญาติของเธอจึงโทรศัพท์ไปยัง ธนาคาร

> > ญาติผู้ตาย : ดิฉันโทรมาแจ้งว่าคุณแจ่มชัดเสียชีวิตแล้วค่ะตั้งแต่เดือมกราคม

> > เจ้าหน้าที่ธนาคาร : ยังไม่มีการแจ้งปิดบัญชีนะคะ ดังนั้นค่าปรับการชำระช้าจึงต้องเรียกเก็บค่ะ

> > ญาติผู้ตาย : งั้นช่วยยกเลิกบัตรให้ดีไหมคะ

> > เจ้าหน้าที่ธนาคาร : แต่มันช้ามาสองเดือนแล้วนะคะ


ที่เรียกเก็บไม่ได้และธนาคารได้ออกใบเรียก เก็บไปแล้วค่ะ

> > ญาติผู้ตาย : ตามปกติถ้าลูกค้าเกิดตายไป ทางธนาคารจะจัดการอย่างไรต่อคะ ?

> > เจ้าหน้าที่ธนาคาร : เราอาจต้องแจ้งหน่วยคดีฉ้อโกงหรือไม่ก็แจ้งไปยังเครดิตบูโร
(ส่วนงานที่จะคอยเก็บประวัติการมีเครดิตของคนประเทศไทยก็มีค่ะ)
หรือไม่ก็แจ้งไปทั้งสองที่ค่ะ

> > ญาติผู้ตาย : แล้วยมบาลจะโกรธเธอไหมคะ? (ฉันชอบคำถามนี้ของตัวเองจริงๆ)

> > เจ้าหน้าที่ธนาคาร : อะไรนะคะ?

> > ญาติผู้ตาย : คุณได้ยินหรือเปล่าคะที่ดิฉันบอกว่าเธอตายไปแล้วน่ะค่ะ

> > เจ้าหน้าที่ธนาคาร : รอสักครู่ค่ะคุยกะหัวหน้าดีกว่าค่ะ

สักครู่หัวหน้ารับโทรศัพท์ไปพูดต่อ...

> > ญาติผู้ตาย : ดิฉันโทรมาแจ้งให้ทราบว่า เจ้าของบัตรเสียชีวิตไปตั้งแต่เดือนมกราแล้วค่ะ

> > หัวหน้าธนาคาร : ยังไม่มีการแจ้งปิดบัญชีนะครับ ดังนั้นค่าปรับการชำระช้าจึงต้องเรียกเก็บครับ
(สงสัยเป็นประโยคที่ทางธนาคารมีไว้ให้ใช้ตอบกับลูกค้า)

> > ญาติผู้ตาย : หมายความว่าจะต้องเรียกเก็บจากที่ดินของเธอหรือคะ

> > หัวหน้าธนาคาร : (ชักเริ่มติดอ่าง) คุณเป็นทนายความของเธอหรือครับ?

> > ญาติผู้ตาย : เปล่าค่ะดิฉันเป็นเหลนของเธอน่ะค่ะ(ทนายสอนให้บอกเช่นนี้)

> > หัวหน้าธนาคาร : กรุณาช่วยแฟกซ์ใบมรณบัตรของเธอมาได้ไหมครับ

> > ญาติผู้ตาย : ยินดีค่ะ(ทางธนาคารแจ้งเบอร์แฟกซ์)

หลังจากได้รับแฟกซ์เรียบร้อย... ...

> > หัวหน้าธนาคาร : ทางระบบของเราไม่ได้บอกว่าจะให้จัดการอย่างไรในกรณีที่ลูกค้าเสียชีวิต
ผมก็ไม่ทราบจะช่วยเหลือได้คุณอย่างไร


ญาติผู้ตาย : อ๋อค่ะ คิดต่อไปนะคะถ้ายังคิดไม่ออกก็เรียกเก็บเงินเธอไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน
เธอคงไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ

หัวหน้าธนาคาร : ครับ ค่าปรับการชำระช้าก็ต้องเรียกเก็บต่อไปนะครับ

ญาติผู้ตาย : ไม่ทราบต้องการที่อยู่ใหม่ของคุณยายทวดไหมคะ

หัวหน้าธนาคาร : ดีเลยครับ

ญาติผู้ตาย : บริเวณปากน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยาสมุทรปราการค่ะ

หัวหน้าธนาคาร : ขอประทานโทษครับนั่นมันเป็นแม่น้ำนี่ครับ

ญาติผู้ตาย : อ้าว!! แล้วเวลาญาติพวกคุณตายเอาอังคารไปลอยแถวไหนหรือคะ


หุหุหุ..ขำๆ แต่โขมยเค้ามาอีกทีน๊ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น