วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554

ในที่ตรงนี้ ณ ปัจจุบัน


ในที่ตรงนี้ ณ ปัจจุบัน

ไม่อะไรสามารถทำร้ายจิตใจเราได้

หากว่าเราไม่หวนกลับไปนึกถึงอดีต

บางครั้ง อะไรหลายๆอย่างก็สามารถ

เรียกความเดียวดายในวันนั้นกลับคืนมาได้

เพราะสายฝนที่เทมาวันนี้ มันทำให้ใจคิดถึงเธอ

ในดวงดาวเหว่ว้าไร้จุดหมาย มีเพียงเงาข้างกายในความเหงา

เหม่อมองฟ้าน้ำตาไหลมาบางเบา เมื่อไม่มีเธอคนเก่าข้างๆกาย

ขาดเธอไปแล้วจะทำเช่นไร ในเมื่อใจยังไม่พร้อมจะหวั่นไหว

ท้องฟ้ามืดมาไม่เหลือใคร มีเพียงใจเปล่าเปลี่ยวทรมาณ

ทำได้เพียงใจอ่อนล้าแสนท้อ เพียงเฝ้ารอความหวังที่เลือนหาย

อยู่ตรงนี้ในฐานะที่เป็นอะไรไม่มากมาย

เป็นเเค่คนสุดท้ายที่เธอจำ ไม่รู้ว่าความรักเจ็บแบบนี้

ในหน้าที่ของฉันท้อหวั่นไหว เลือกแล้วที่จะเฝ้ารอเธอตลอดไป

ต่อให้ใจของเธอเลือกลืมกันหมดหัวใจ

คนบางคน มักจะยังคงจดจำสิ่งที่เจ็บปวดที่สุด

แต่สำหรับบางคนเลือกที่จะจดจำแต่ภาพความทรงจำที่สวยงาม

และอยู่กับปัจจุบันอย่างมีความสุข แล้วเหตุใด

ฉันจึงต้องเป็นคนนั้นที่รับเอาเเต่ความเจ็บปวดไว้กับตัวเอง

ด้วยเล่า เพราะว่า รัก มัน... ใหญ่มากน่ะสิ

วันที่จับมือกัน


วันที่จับมือกัน

เธอกับฉันนั้นลืมบ้างไหมว่าเมื่อไหร่

จำอะไรได้บ้างไหม ว่าสุดท้ายอะไรที่ทำให้ได้พบกัน

แล้วใครรักใครก่อน ไม่รู้ว่าเรารักกันเมื่อไหร่

แต่ความรู้สึกของฉันวันนั้นเท่านั้น ( มันได้ตอบคำถาม )

บอกกับฉันว่าเธอคนนี้ ( อยู่กับฉันบนโลกใบนี้ )

และนับตั้งแต่นาทีตรงนั้น ที่ฉันเพิ่งรู้ว่ารักเธอ

ก็อยากให้รู้ว่านับตั้งแต่วันนั้นทุกวินาทีของฉัน

บอกกับฉันว่าโลกนี้มีเธออยู่ เพราะฉันไม่เคยรู้สึก

อะไรมากมายเท่านี้ อยากให้รู้แม้จะอยู่ห่างไกลถึงแม้จะอยู่ตรงไหน

ถ้าโลกนี้นั้นมีแค่ใครสักคนหนึ่ง ให้คิดถึงกันทุกวัน

จะทำให้หมดคำถาม ...ตลอดไป อยู่ด้วยกัน

และอยู่ข้างข้างกัน บนโลกใบนี้ อยู่ด้วยกัน

และอยู่ข้างข้างกัน ... ตลอดไป^^

เมื่อต้องบอกรักใครสักคน


คำว่ารักคำเดียวกัน...

อาจมีความหมายต่างกัน

หากความรู้สึกของคนที่พูดมานั้นต่างกัน

เมื่อใครสักคนพูดคำว่ารัก...

ด้วยตวามรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง

คำๆนี้ก็จะกลายเป็นคำที่มีพลังที่ยิ่งใหญ่

แปลเปลี่ยนคืนวันที่หัวใจเศร้าหมอง

ให้เป็นวันที่สดใส คำว่ารักคำเดียวกัน..

. เพียงแค่ไม่ได้ถูกเปล่งออกมาจากที่เดียวกัน...

ก็มีความหมายต่างกันมากมายเหลือเกิน

เมื่อเราจำเป็นต้องพูด...เราต้องคิดเสมอว่า...

คำๆนี้มีอิทธิพลต่อคนฟังมากมายเสมอ

จงใช้เวลาเพื่อคิดให้ดี ให้มั่นคงก่อนที่จะพูด

เมื่อต้องบอกรักใครสักคน

อย่าพูดออกจากปาก ให้พูดออกจากหัวใจ^^

วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2554

ลองยกนิ้วขึ้นมาสิแล้วชี้ที่หัวใจ


จะไม่ขอให้เธอสัญญา

คำพูดเจรจาไม่มีค่าเท่าหัวใจหรอกรู้ไหม

เรารักกัน วันนี้ฉันมั่นใจ

จึงไม่เห็นจะต้องพูดอะไรให้เปลืองน้ำลายฟรี ๆ

ฉันเชื่อเธอเท่า ๆ กับที่ฉันเชื่อในตัวเอง

เรา 2 คนจะผูดพันไม่มีวันทอดทิ้งกันจากตรงนี้

คำว่ารักไม่จำป็นต้องใช้สัญญามาผูกมัดให้มันมี

เพราะความหมายของมันอยู่ที่นี่. . .

ลองยกนิ้วขึ้นมาสิแล้วชี้ที่หัวใจ

สัญญานะ...จะรักเธอคนเดียว*


ไม่ขอสาบานให้ฟ้าผ่า

แต่จะขอสัญญาว่าจะรักเธอเสมอ

ไม่สาปแช่งตัวเองให้โดนทำร้ายหรอกเธอ

แต่อวยพรให้เจอแต่สิ่งดีๆถ้ารักกันต่อไป

ไม่ได้กลัว. . .ไม่ใช่ไม่ไว้ใจในตัวเอง

แต่สัญญามีค่ากว่าคำอวดเก่งอย่างคำสาบานที่คนอื่นให้

ที่สำคัญ เธอจะได้รู้ว่าทุกวันนี้รักกันสุดใจ

ฉันไม่ได้ทำเพราะกลัวตาย. . . แต่ทำเพราะรักไม่อ่อนไหวไปจากเธอ

วันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2554

ชีวิตต้องรอคอยใครสักคนให้ได้


ใครสักคน..ที่มีค่าแก่การรอคอย

ใครบางคนที่มีค่าพอให้รอคอย

การรอคอยเป็นเรื่องที่ทรมาน

โดยเฉพาะการรอคอยที่จะกลับมาพบกัน

หรือรอคอยใครสักคน ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน

เพราะเวลาแห่งการรอคอยนั้น มีมากกว่า24ชั่วโมง

และเข็มนาฬิกาก็เดินช้าขึ้นอีกเป็นเท่าตัว

จากเวลาที่นานอยู่แล้วจึงนานยิ่งกว่า

และการดำเนินชีวิตระหว่างการรอนั้น

ก็มีตัวแปรมากมายที่ทำให้คนเราเปลี่ยนไป

อยู่ทุกขณะ เพราะทุกคนมีพื้นฐานความเหงา

และโดดเดี่ยวอยู่ในตัวเอง พอๆกับความอ่อนไหว

เป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้ระยะทางเป็นเครื่องวัสความรู้สึก

พิสูจน์ ความเข็มแข็ง ของความรัก วัสการกระทำ

ความเสมอต้นเสมอปลาย และความอดทน

ด้วยเงื่อนไข ของความลำบาก แห่งกาลเวลา

และตัดสินว่า การรอคอย จะคุ้มค่าหรือไม่

การอยู่ห่างกัน จึงจำเป็นต้อง พิสูจน์กันด้วยความเข็มแข็ง

ต่างคนต่างก็ต้องทำหัวใจให้เข็มแข็งกับอารมณ์ต่างๆ

ที่คอยรบกวนและคอยชักจูงออกนอกลู่นอกทาง

เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย ที่วันหนึ่งเราพบว่า

คนคนหนึ่ง คือคนที่ชีวิตเราตามหามาตลอด

และใครสักคนที่เป็นได้อย่างเราฝัน มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

และคนที่จะฝ่าฟันกับการบีบคั้นแห่งการรอคอย

กลับมาหาเราได้ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาและ

คนคนนั้นย่อมเต็มค่า เวลาชาวประมงจะเลี้ยงหอยมุก

จะต้องใช้เวลาเนินนาน และสามารถ รอคอยได้

อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเค้ารู้ว่า เมื่อไหร่ถึงเวลา

ที่มุกสามารถ นำมาร้อยเป็นสร้อยได้

ย่อมเกิดมีค่ามหาศาล ชีวิตจึงจำเป็นต้องรอคอย

ใครสักคนให้ได้ หากรู้ว่าเป็นใครสักคน

ที่มีค่าแก่การรอคอย...น้องก็จะรอคอยคุณนะในที่ตรงนี้น๊ะที่รัก


วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554

ให้เพื่อนเด้อจร้า..อย่าเสียเวลา


เคย มีคนบอกว่า…อย่าเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่

เพราะมันเหมือนการตำพริกละลายแม่น้ำ

คือ เสียเวลาทำในสิ่งที่เปล่าประโยชน์

แถมใจก็ไม่มีความสุข หากลองคบหาดูใจ

เรียนรู้กันและกันแล้ว จู่ ๆ กลับเกิดความรู้สึก “ไม่ใช่”

ทั้ง ๆ ที่ตอนเริ่มเป็นแฟนกันใหม่ ๆ อะไร ๆ ก็ดี

อะไร ๆ ก็สวยงาม แต่พอกาลเวลาผ่านไป

ความรู้สึกไม่ใช่ก็โผล่ขึ้นมาทั้งทาย

มันคงเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเราควรหันมามองคนที่ใช่กันดีกว่า

เพราะหากเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ใช่

ก็อย่าฝืนทนคบไปเรื่อย ๆ ยิ่งการทนอยู่เพราะ “เขารักเรา”

ทั้ง ๆ ที่คุณเองเริ่มรู้สึกว่า “เขาไม่ใช่” ซะแล้ว

บางทีคุณอาจทำร้ายเขาไปโดยไม่รู้ตัวก็ได้

ถึงแม้ว่า “ความรัก” ออกแบบไม่ได้

เพราะคนที่เรารู้สึกใช่เขากลับวิ่งหนี แต่คนที่ไม่ใช่

เขาคอยวิ่งตามเราเสมอ แต่เราสามารถ

ทำมันให้สมบูรณ์แบบได้ เพราะความรัก

เปรียบเหมือนการปลูกต้นไม้ หากเรา

หว่านเมล็ดพันธุ์ลงในพื้นที่ที่เหมาะสม

มันจะงอกงามสดใส แต่ถ้าเราพยายามหว่านอย่างตั้งใจ

ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะ ยังไง ๆ มันก็คงไม่เติบโตงดงามอย่างใจหวัง

ที่สำคัญ “ความรัก” เป็นสิ่งมีค่า เพราะฉะนั้น

อย่ามัวเสียเวลากับคนที่ไม่ใช่ เพราะมันอาจทำให้ “คนที่ใช่”

เดินผ่านเราไปแบบที่เราไม่รู้ตัวก็ได้ และอย่าเก็บเอาความทรงจำ

ในอดีตที่แสนงดงาม มาบดบังความจริงในใจของตัวเรา

ลองถามใจตัวเอง พร้อม ๆ กับฟังเสียงของหัวใจตัวเอง

อีกสักครั้งว่า “เรายังรักเขาอยู่หรือเปล่า” และ “

เขายังเป็นคนที่ใช่สำหรับเราอยู่หรือเปล่า”

ถ้าหาคำตอบให้กับหัวใจได้แล้ว ก็เดินหน้าลุยต่อเลย

แต่หากอยากพบรักที่มั่นคงและมีความสุข

ควรเลือกคนที่ “พอดี” และ “เข้ากันดี” กับตัวเรา


วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

ฉั น ใ ห้ เ ธ อ ไ ด้... เ ท่ า นี้


เกือบลืมไปแล้ว ว่าฉันเคยรักเธอมาก่อน

ยังดีที่พอจะเหลือรอยอาทร...กับน้ำตาเปียกปอน

ในวันนั้น กับคำว่า"คิดถึง" ..มอบให้ผู้หญิงคนนึง..

ที่เธอไปจากกัน ได้แต่เอ่ยขอบคุณสั้นๆ...

แล้วหันหลังเดินจากมา

ฉั น ใ ห้ เ ธ อ ไ ด้... เ ท่ า นี้ . . . ย อ ม ใ ห้ เ ธ อ ไ ด้ ...เ ท่ า นี้

คำว่า"คิดถึง"ที่เธอมี..กับอาการใยดี มันไม่เหลือค่า

เธอเคยร้ายกับฉันยังไง...ยังจำได้...ติดตา

เด็กอนุบาลที่ยังไม่ประสีประสา...มันยังรู้ว่า...ไม่ควรเชื่อเธอ!


หุหุไม่ได้ว่าใครน๊ะวุ้ยยยยยขอบอก